“เด่นวิทย์” ทิ้งห่าง 5 สโตรก เข้าสู่รอบสุดท้าย “ไทยแลนด์ โอเพ่น” ที่ริเวอร์เดลฯ

BY N ON December Sat, 2023 17:34

“เด่นวิทย์” ทิ้งห่าง 5 สโตรก เข้าสู่รอบสุดท้าย “ไทยแลนด์ โอเพ่น” ที่ริเวอร์เดลฯ

เด่นวิทย์ เดวิด บริบูรณ์ทรัพย์ นำห่าง 5 สโตรก เข้าสู่รอบสุดท้ายลุ้นแชมป์ที่ 3 ในออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ ในรายการ “ไทยแลนด์ โอเพ่น” ครั้งที่ 51 ชิงถ้วยพระราชทาน รัชกาลที่ 9 พร้อมเงินรางวัลรวม 5 ล้านบาท

การแข่งขันกอล์ฟอาชีพสะสมคะแนนอันดับโลก ออล ไทยแลนด์ กอล์ฟ ทัวร์ 2023 สนับสนุนโดย สิงห์ คอร์เปอเรชั่น, สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ รวมถึงพันธมิตรผู้ร่วมสนับสนุน จัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพรายการใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย "ไทยแลนด์ โอเพ่น ครั้งที่ 51" ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พร้อมเงินรางวัลรวม 5 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 7-10 ธันวาคม 2566 ณ สนามริเวอร์เดล กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,112 หลา พาร์ 71 จังหวัดปทุมธานี นับเป็นรายการปิดฤดูกาลของออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ 2023 โดยผู้ชนะจะรับเงินรางวัลไปครอง 750,000 บาท พร้อมคะแนนสะสมอันดับโลก

ในการเล่นรอบสาม เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2566 เด่นวิทย์ เดวิด บริบูรณ์ทรัพย์ ซึ่งนำคู่แข่ง 2 สโตรกหลังจบรอบสอง ทำเพิ่มอีก 6 อันเดอร์ จาก 6 เบอร์ดี้ สกอร์รวมขยับห่างคู่แข่งเป็น 5 สโตรก ที่ 19 อันเดอร์ ขณะที่อันดับ 2 ร่วม ที่สกอร์รวมคนละ 14 อันเดอร์ ประกอบด้วย โคสุเก ฮามาโมโต้ (65), ธาวิท พลไทย (67) และ เนติพงศ์ ศรีทอง (68) โดย เด่นวิทย์ กำลังลุ้นแชมป์ที่ 3 ในทัวร์ และแชมป์สัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกันหลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วคว้าแชมป์ในเอเชียนเดเวลล็อปเม้นท์ทัวร์ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า “วันนี้สกอร์ -6 ก็พอใจกับผลงานมากครับเพราะว่าสภาพอากาศร้อนมาก เล่นค่อนข้างยากและต้องเล่นแบบอดทนครับ ช็อตน่าประทับใจน่าจะเป็นที่หลุม 12 ที่ชิพขึ้นมาเซฟพาร์ได้ครับ” โปรวัย 20 ปีจากชลบุรี ยอมรับว่า สภาพร่างกายค่อนข้างล้า แต่ก็ต้องสู้เต็มที่เพราะใกล้จบฤดูกาลแล้ว ส่วนผลการแข่งขันก็ขึ้นอยู่กับว่าใครเล่นได้ดีกว่ากัน “พรุ่งนี้คงจะเล่นแผนเดิมคือตีให้สนุกและอดทนกับอากาศที่ร้อนครับ ก็ไม่ได้คาดหวังอะไร เล่นให้เต็มที่ เล่นให้สนุก ผลแพ้ชนะอยู่ที่ใครทำได้ดีกว่ากันครับ” เด่นวิทย์ ได้แชมป์แรกในออลไทยแลนด์ฯ ในศึก สิงห์ เชียงใหม่ โอเพ่น 2021 และแชมป์ที่ 2 ในศึก สิงห์ ออลไทยแลนด์ พรีเมียร์ แชมเปี้ยนชิพ 2022

จอห์น คัทลิน อดีตแชมป์ปี 2019 ซึ่งเป็น 1 ใน 4 นักกอล์ฟต่างชาติที่ผ่านเข้ารอบมาได้ ทำเพิ่มรอบสามอีก 7 อันเดอร์ จาก 7 เบอร์ดี้ สกอร์รวม 13 อันเดอร์ ตามผู้นำ 6 สโตรก ส่วน “อาโป” สิรภพ ยะปาละ ทำผลงานดีสุดในรอบนี้ที่ 8 อันเดอร์ จากการทำ 2 อีเกิ้ล 6 เบอร์ดี้ 2 โบกี้ สกอร์รวม 12 อันเดอร์ อยู่ที่ 6 ร่วม เท่ากับ “ไทเกอร์” วิชญภัทร สินสร้าง (67) ด้าน ธนภัทร พิชัยกุล (68), ชัพชัย นิราช (69) และ ภูสิทธิ์ ทรัพย์อัประไมย (69) ทำสกอร์รวมคนละ 11 อันเดอร์ ตามหลังผู้นำ 8 สโตรก วรุณ เอี่ยมแก้ว ซึ่งตีรอบสาม 6 อันเดอร์ จาก 6 เบอร์ดี้ อยู่ที่ 11 ร่วมกับ วาริษ มั่นธรณ์ (68) และ นิวพอร์ต ลาภาโรจน์กิจ (69) ที่สกอร์รวมคนละ 10 อันเดอร์ ภาณุพล พิทยารัฐ ซึ่งกำลังลุ้นนักกอล์ฟทำเงินสูงสุดของทัวร์ ทำเพิ่มอีก 4 อันเดอร์ สกอร์รวม 7 อันเดอร์ เท่ากับ อิทธิพัทธ์ บูรณธัญรัตน์ (66), ภวินท์ อิงคะประดิษฐ์ (66) และภาณุวิชญ์ อ่อนจู (68) , ปรัตถกร สูยะศรี (68)และ ดลภัทรไชย นิยมชน (69)

“ไทยแลนด์ โอเพ่น” เป็นการแข่งขันกอล์ฟอาชีพที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย เริ่มต้นจัดการแข่งขันครั้งแรกเมื่อปี 2508 โดยในการแข่งขันครั้งล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว ขวัญชัย แท่นนิล ออกนำตั้งแต่รอบแรกจนคว้าแชมป์ไปครองที่สกอร์รวม 23 อันเดอร์ และกลายเป็นนักกอล์ฟไทยคนที่ 7 ที่ได้แชมป์ในรายการนี้ต่อจาก สุเทพ มีสวัสดิ์ (2534), บุญชู เรืองกิจ (2535 และ 2547), ประหยัด มากแสง (2556), รฐนน วรรณศรีจันทร์ (2560), ภาณุพล พิทยารัฐ (2561) และสดมภ์ แก้วกาญจนา (2564) แฟนกอล์ฟสามารถติดตามชมการถ่ายทอดสดรอบสุดท้ายวันอาทิตย์ที่ 10 ธ.ค. 66 ได้ทางทรูสปอร์ต 2 (667) หรือทางเฟสบุคแฟนเพจ และยูทูปของออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป